Finn - Adventure Time Pointer

วันจันทร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2559

กิจกรรมที่ 2


▶▶กิจกรรมที่ 2⊳⊳

ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์


    1. โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา (Educational Media Development)
คือ เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษา การดัดแปลงความรู้ที่อยู่ในหนังสือให้ออกมาในรูปแบบของวิดีโอ ภาพเคลื่อนไหว เสียง หรือ ห้องสมุดอิเลคทรอนิกส์ โดยใช้คอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยในการผลิตสิ่งเหล่านี้ โดยการสร้างโปรแกรมบทเรียนหรือหน่วยการเรียน ซึ่งอาจจะต้องมีภาคแบบฝึกหัด บททบทวน และคำถามคำตอบไว้พร้อม ผู้เรียนสามารถเรียนแบบรายบุคคลหรือรายกลุ่มการสอน โดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอนนี้ ถือว่าคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์การสอน ซึ่งอาจเป็นการพัฒนาบทเรียนแบบออนไลน์ ให้ผู้เรียนเข้ามาศึกษาด้วยตนเองก็ได้ โครงงาน ประเภทนี้สามารถพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ประกอบการสอนในวิชาต่างๆ โดยผู้เรียนอาจคัดเลือกเนื้อหาที่เข้าใจยาก มาเป็นหัวข้อในการพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา เช่น การเคลื่อนที่แบบโปรเจ็กไตล์ ระบบสุริยจักรวาล  ตัวแปรต่างๆ ที่มีผลต่อการชำกิ่งกุหลาบ หลักภาษาไทย  และสถานที่สำคัญของประเทศไทย เป็นต้น


credit: https://youtu.be/HojwD2OxYpo


        2. โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน (Application)
คือ การผลิต สร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ หรือ พัฒนาจากของเดิม โดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสร้างขึ้นมา ให้สามารถใช้งานในชีวิตประจำวันได้จริงๆ  โดยอาจมีการลงพื้นที่เพื่อเก็บข้อมูลก่อน โครงงานลักษณะนี้จะต้องศึกษาและวิเคราะห์ความต้องการของผู้ใช้ก่อน แล้วนำข้อมูลที่ได้มาใช้ในการออกแบบ และพัฒนาสิ่งของนั้นๆ ต่อจากนั้นต้องมีการทดสอบการทำงานหรือทดสอบคุณภาพของสิ่งประดิษฐ์แล้วปรับ ปรุงแก้ไขให้มีความสมบูรณ์ โครงงานประเภทนี้ผู้เรียนต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ภาษาโปรแกรม และเครื่องมือต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น การสร้างโปรแกรมตรวจสอบข้อมูลโทรศัพท์หาย โปรแกรมตรวจสอบสภาพจราจร โปรแกรมการจัดตารางสอน



        3. โครงงานพัฒนาเกม (Game Development)
คือ โครงงานประเภทนี้เป็นโครงงานพัฒนาซอฟต์แวร์เกมเพื่อความรู้หรือเพื่อความ เพลิดเพลิน เกมที่พัฒนาควรจะเป็นเกมที่ไม่รุนแรง เน้นการใช้สมองเพื่อฝึกคิดอย่างมีหลักการ โครงงานประเภทนี้จะมีการออกแบบลักษณะและกฎเกณฑ์การเล่น เพื่อให้น่าสนใจแก่ผู้เล่น พร้อมทั้งให้ความรู้สอดแทรกไปด้วย ผู้พัฒนาควรจะได้ทำการสำรวจและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเกมต่างๆ ที่มีอยู่ทั่วไป และนำมาปรับปรุงหรือพัฒนาขึ้นใหม่ เพื่อให้เป็นเกมที่แปลกใหม่ และน่าสนใจแก่ผู้เล่นกลุ่มต่างๆ



        4. โครงงานพัฒนาเครื่องมือ (Tools Development)
คือ โครงงานประเภทนี้เป็นโครงงานเพื่อพัฒนาเครื่องมือช่วย สร้างงานประยุกต์ต่างๆ โดยส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปซอฟต์แวร์ การออกแบบซอฟแวร์เพื่อนำไปประยุกต์ใช้กับอาชีพหรือสิ่งของต่างๆ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น เช่น ซอฟต์แวร์วาดรูป ซอฟต์แวร์พิมพ์งาน และซอฟต์แวร์ช่วยการมองวัตถุในมุมต่างๆ เป็นต้น สำหรับซอฟต์แวร์เพื่อการพิมพ์งานนั้นสร้างขึ้นเป็นโปรแกรมประมวลคำ ซึ่งจะเป็นเครื่องมือให้เราใช้ในการพิมพ์งานต่างๆบนเครื่องคอมพิวเตอร์ ส่วนซอฟต์แวร์การวาดรูป พัฒนาขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกให้การวาดรูปบนเครื่องคอมพิวเตอร์ให้เป็นไปได้ โดยง่าย สำหรับซอฟต์แวร์ช่วยการมองวัตถุในมุมต่างๆ ใช้สำหรับช่วยการออกแบบสิ่งของ อาทิเช่น ผู้ใช้วาดแจกันด้านหน้า และต้องการจะดูว่าด้านบนและด้านข้างเป็นอย่างไร ก็ให้ซอฟต์แวร์คำนวณค่าและภาพที่ควรจะเป็นมาให้ เพื่อพิจารณาและแก้ไขภาพแจกันที่ออกแบบไว้ได้อย่างสะดวก




        5. โครงงานจำลองทฤษฏี (Theory Simulation)
คือ โครงงานประเภทนี้เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในการ จำลองการทดลองของสาขาต่างๆ ซึ่งเป็นงานที่ไม่สามารถทดลองด้วยสถานการณ์จริงได้ เช่น การจุดระเบิด เป็นต้น และเป็นโครงงานที่ผู้ทำต้องศึกษารวบรวมความรู้ หลักการ ข้อเท็จจริง และแนวคิดต่างๆ อย่างลึกซึ้งในเรื่องที่ต้องการศึกษาแล้วเสนอเป็นแนวคิด แบบจำลอง หลักการ ซึ่งอาจอยู่ในรูปของสูตร สมการ หรือคำอธิบาย พร้อมทั้งารจำลองทฤษฏีด้วยคอมพิวเตอร์ให้ออกมาเป็นภาพ ภาพที่ได้ก็จะเปลี่ยนไปตามสูตรหรือสมการนั้น ซึ่งจะทำให้ผู้เรียนมีความเข้าใจได้ดียิ่งขึ้น การทำโครงงานประเภทนี้มีจุดสำคัญอยู่ที่ผู้ทำต้องมีความรู้ในเรื่องนั้นๆ เป็นอย่างดี การจำลองเหตุการณ์หรือทฤษฏีต่างๆอธิบายเป็นภาพโดยใช้คอมพิวเตอร์ในการสร้าง โดยต้องอาศัยความรู้เฉพาะทาง เช่น การจำลองวิถีกระสุนที่ยิงจากตึกสูง หรือ การจำลองทฤษฏีรวมโมเลกุล การทดลองเรื่องการไหลของของเหลว การทดลองเรื่องพฤติกรรมของปลาปิรันย่า และการทดลองเรื่องการมองเห็นวัตถุแบบสามมิติ เป็นต้น

กิจกรรมที่ 1


กิจกรรมที่ 1


🔺🔺ความหมายของโครงงานคอมพิวเตอร์🔻🔻


                โครงงานคอมพิวเตอร์  คือ กิจกรรมการเรียนรู้ของนักเรียนอีกรูปแบบหนึ่ง ที่ทำให้นักเรียนมีอิสระทางความคิดทางการศึกษาปัญหาและสิ่งต่างๆ ที่ตนเองในใจ โดยนักเรียนต้องมีการวางแผนการศึกษาและนักเรียนจะต้องวางแผนการดำเนินงาน ศึกษา พัฒนาโปรแกรม หรืออุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง โดยใช้ความรู้กระบวนการทางวิศวกรรมซอฟต์แวร์ เครื่องคอมพิวเตอร์และวัสดุอุปกรณ์ตลอดจนทักษะพื้นฐานในการพัฒนาโครงงาน เรื่องที่นักเรียนสนใจและคิดจะทำโครงงาน ซึ่งอาจมีผู้ศึกษามาก่อน หรือเป็นเรื่องที่นักพัฒนาโปรแกรมได้เคยค้นคว้าและพัฒนาแล้ว นักเรียนสามารถทำโครงงานเรื่องดังกล่าวได้ แต่ต้องคิดดัดแปลงแนวทางในการศึกษา การวิเคราะห์ข้อมูล การพัฒนาโปรแกรม หรือศึกษาเพิ่มเติมจากผลงานเดิมที่มีผู้รายงานไว้ จุดมุ่งหมายสำคัญของการทำโครงงานเป็นการเปิดโอกาสให้นักเรียนได้รับประสบการณ์ตรงในการใช้ระบบคอมพิวเตอร์แก้ปัญหา ประดิษฐ์คิดค้นหรือค้นคว้าหาความรู้ต่างๆ ใช้คอมพิวเตอร์ในการพัฒนาสื่อการเรียนรู้เพื่อการศึกษา ประดิษฐ์ ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ใช้สอยต่างๆ พัฒนาโปรแกรมประยุกต์ต่างๆตลอดจนการพัฒนาเกมคอมพิวเตอร์ เพื่อฝึกให้นักเรียนเป็นบุคคลที่ใฝ่เรียนใฝ่รู้ การพัฒนาความคิดใหม่ๆ ความมีคุณธรรมจริยธรรม เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ให้กับเพื่อนมนุษย์ และอยู่ในสังคมอย่างมีความสุข และทำให้เกิดความสามัคคีในการทำงานร่วมกันเป็นกลุ่ม รวมถึงการฝึกความกล้าแสดงออกในการนำเสนอผลงานของตน



🔺🔺ความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์🔻🔻



                ความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์    ครงงานคอมพิวเตอร์ คือ ผลงานที่ได้จากการศึกษาค้นคว้าตามความสนใจ ความถนัดและความสามารถของผู้เรียน โดยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ โครงงานจึงเป็นกิจกรรมการเรียนรู้ที่มีการเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ โดยผู้เรียนจะหาหัวข้อโครงงานที่ตนเองสนใจ รวมทั้งเชื่อมโยงความรู้ต่าง ๆ และความรู้ด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อสร้างผลงานตามความต้องการได้อย่างเหมาะสม โดยมีครูเป็นที่ปรึกษาและให้คำแนะนำความสามารถที่เกิดจากการทโครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์เป็นกิจกรรมการเรียนรู้ที่ทำให้ผู้เรียนเกิดความสามารถในด้านต่าง ๆ ที่สำคัญ 5 ประการดังนี้

        1. ความสามารถในการสื่อสาร เป็นความสามารถที่เกิดจากการที่นักเรียนเป็นผู้ทำโครงงานต้องนำเสนอผลงานให้ ครูและเพื่อนนักเรียนให้เข้าใจโครงงานคอมพิวเตอร์ได้อย่างชัดเจน ดังนั้น ผู้ทำโครงงานต้องสื่อสารความคิดในการสร้างสรรค์โครงงานด้วยการเขียน หรือด้วยปากเปล่า รวมทั้งเลือกใช้รูปแบบของสื่ออย่างมีประสิทธิภาพเพื่อนำเสนอแนวคิดในการจัด โครงงานให้ผู้อื่นได้เข้าใจ

        2. ความสามารถในการคิด ซึ่งผู้เรียนจะมีการคิดในลักษณะต่าง ๆ ดังนี้

            2.1 การคิดวิเคราะห์ เกิดจากการที่ผู้เรียนต้องวิเคราะห์ปัญหาและแยกแยะสาเหตุว่าเกิดเนื่องจากอะไร

            2.2 การคิดสังเคราะห์ เกิดจากการที่ผู้เรียนต้องนำความรู้ต่าง ๆ ที่เรียนมา รวมทั้งความรู้จากการค้นหาข้อมูล เพื่อใช้ในการแก้ปัญหาหรือการสร้างสรรค์โครงงาน

            2.3 การคิดอย่างสร้างสรรค์ เกิดจากการที่ผู้เรียนนำความรู้มาสร้างสรรค์ผลงานใหม่ ๆ

            2.4 การคิดอย่างมีวิจารณญาณ เกิดจากการที่ผู้เรียนได้มีการคิดไตร่ตรองว่าควรทำโครงงานใดและไม่ควรทำโครงงานใด เนื่องจากโครงงานที่สร้างขึ้นอาจส่งผลกระทบต่อสังคมโดยรวม เช่น โครงงานระบบคำนวณเลขหวย สำหรับหาเลขที่คาดว่าสลากกินแบ่งรัฐบาลจะออกในแต่ละงวด อาจส่งผลกระทบต่อสังคม ทำให้คนในสังคมเกิดความหมกมุ่นในกับการใช้เงินเล่นหวยมากขึ้น

            2.5 การคิดอย่างเป็นระบบ เกิดจากการที่ผู้เรียนคิดแก้ปัญหาอย่างเป็นขั้นตอน โดยใช้ขั้นตอนในการพัฒนาโครงงาน คือ ผู้เรียนเป็นผู้วางแผนในการศึกษา ค้นคว้า เก็บรวบรวมข้อมูล พัฒนา หรือประดิษฐ์คิดค้นผลงาน รวมทั้งการสรุปผลและการน าเสนอผลการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง โดยมีผู้สอนและ ผู้ทรงคุณวุฒิเป็นผู้ให้คำปรึกษา

        3. ความสามารถในการแก้ปัญหา เกิดจากการที่ผู้เรียนวิเคราะห์ปัญหา เข้าใจ และอธิบายปัญหาทางด้านคอมพิวเตอร์ รวมทั้งประยุกต์ความรู้ ทักษะ และการใช้เครื่องมือที่เหมาะสมกับการแก้ไขปัญหา

        4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต

        5. เกิดจากการที่ผู้เรียนได้นำความรู้และกระบวนการต่าง ๆ ไปใช้ในการพัฒนาโครงงาน และนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างเหมาะสม รวมถึงการพัฒนาโครงงาน ก่อให้เกิดการเรียนรู้ด้วยตนเอง อันนำไปสู่การเรียนรู้ตลอดชีวิต

        6. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เกิดจากการที่ผู้เรียนสามารถเลือกใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ในการแก้ปัญหาได้อย่างถูกต้องเหมาะสมและมีคุณธรรม

🔺🔺ขอบข่ายของโครงงานคอมพิวเตอร์🔻🔻


              1. เป็นกิจกรรมการเรียนให้นักเรียนศึกษา ค้นคว้า ปฏิบัติดัวยตนเองโดยอาศัยหลักวิชาการทางทฤษฎีตามเนื้อหาโครงงานนั้นๆ หรือจากประสบการณ์และกิจกรรมต่าง ๆ ที่ได้พบเห็นมากแล้ว

2. นักเรียนทุกคนพิจารณาจัดทำโครงงานด้วยตนเอง หรือเป็นกลุ่มโดยใช้ระยะเวลาสั้นๆ เป็นภาคเรียน หรือมากว่าก็ได้ แล้วแต่โครงงานเล็กหรือใหญ่

3. นักเรียนเป็นผู้พิจารณาริเริ่มสร้างสรรค์ คัดเลือกโครงงานที่จะศึกษาค้นคว้าปฏิบัติด้วยตนเองตามความถนัด สนใจ และความพร้อม

4. นักเรียนเป็นผู้เสนอโครงงาน รายละเอียดของโครงงาน แผนปฏิบัติงานและการแปลผล รายงานผลต่ออาจารย์ที่ปรึกษา เพื่อดำเนินงานร่วมกันให้บรรลุตามจุดหมายที่กำหนดไว้

5. เป็นโครงงานที่เหมาะสมกับความรู้ ความสามารถของนักเรียนตามวัยและสติปัญญา รวมทั้งการใช้จ่ายเงินดำเนินงานด้วย







วันศุกร์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2559

ใบงานที่ 6 โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์


ใบงานที่ 6 โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์



ใบงานที่ 5 บทความสารคดีที่นำมาใช้สำหรับการเขียนโครงร่าง


ใบงานที่ 5 บทความสารคดีที่นำมาใช้สำหรับการเขียนโครงร่าง


Polar bear, Polar light
หมีขาว ราชาแห่งดินแดนน้ำแข็ง


ประวัติความเป็นมา



    หมีขั้วโลกหรือหมีขาว (Ursus maritimus) เป็นหมีท้องถิ่นที่มีขนาดใหญ่ของพื้นที่แถบอาร์กติกที่รวมทั้งแผ่นดินและผืนมหาสมุทร หมีขาวหรือหมีขั้วโลกมักถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของชนพื้นเมือง ในประเทศแคนาดารูปของหมีขั้วโลกถูกในมาใช้ในเหรียญ 2 ดอลลาร์ รวมถึงสัญลักษณ์ของ Norgthwest Territoriesและ Nunavut license plates อีกด้วย ในโอลิมปิคฤดูหนาวที่เมือง Calgary ในปี ค.ศ. 1988 ก็ใช้หมีขั้วโลกเป็นสัญลักษณ์เช่นกัน 

นอกจากนี้หมีขั้วโลกยังเป็นส่วนหนึ่งของภาพยนตร์โฆษณาหรือแผ่นป้ายโฆษณาของสินค้าบางชนิดเช่น coca-cola, polar beverage nelvana, Bundaberg Rum และ good humor-Breyers ในเมืองไทยไม่มีได้ใช้หมีขาวเป็นสัญลักษณ์อะไรแต่จะพบการเปรียบเทียบหรือเป็นสมญานามของบุคคลที่มาจากประเทศรัสเซียว่ามาจากเมืองหมีขาว

 coca-cola  


polar beverage nelvana



Bundaberg Rum




good humor-Breyers
ลักษณะและที่อยู่อาศัย

    ในโลกของสัตว์กินเนื้อ หมีขั้วโลกหรือหมีขาวและหมีสีน้ำตาลถือว่าเป็นสัตว์บกกินเนื้อที่มีขนาดใหญ่ที่สุด เพศผู้ตัวเต็มวัยมีน้ำหนักประมาณ 350-– 680 กิโลกรัม ในขณะที่เพศเมียจะมีขนาดเล็กกว่าเพศผู้ประมาณครึ่งหนึ่ง ถึงแม้ว่ามีทั้งสองชนิดนี้มีความใกล้เคียงกันในสายวิวัฒนาการ แต่หมีขั้วโลกหรือหมีขาวได้ปรับตัวเองให้สามารถอยู่อาศัยอยู่ในสภาพถิ่นที่อยู่ที่ค่อนข้างไม่มีความหลากหลาย ด้วยความที่ว่าลักษณะร่างกายของมันได้ปรับตัวให้เข้ากับลักษณะอากาศที่หนาว การเดินบนแผ่นน้ำแข็ง หิมะและน้ำ และยังรวมไปถึงการพัฒนาเพื่อการล่าแมวน้ำ ถึงแม้ว่าหมีเหล่านี้จะเกิดบนบก แต่มันก็ใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในน้ำ


หมีขาวมีขนาดใหญ่กว่าประมาณ 2 เท่าตัวของเสือโคร่งไซบีเรีย หมีขั้วโลกจะมีช่วงลำตัว กะโหลกและช่วงจมูกที่ยาวกว่าหมีสีน้ำตาล มีขาที่แข็งแรง และเท้าขนาดใหญ่ที่ไว้ใช้สำหรับการเดินและเคลื่อนที่บนน้ำแข็ง มีหูและหางมีขนาดเล็กกว่าหมีสีน้ำตาล กรงเล็บของหมีขั้วโลกสั้นและแข็งแรงกว่าหมีสีน้ำตาลเพื่อใช้ในการจับเหยื่อและยึดเกาะแผ่นน้ำแข็ง หมีขาวมีฟันทั้งหมด 42 ซี่ มีสูตรฟันเท่ากับ 3 1 4 2/ 3 1 4 2 มีฟันกรามน้อยหรือฟันแก้มที่เล็กแต่มีฟันเขี้ยวที่แหลมคมและยาว
หมีขาวกระจายพันธุ์อยู่เฉพาะซีกโลกทางเหนือ บริเวณขั้วโลกเหนือหรืออาร์กติกเท่านั้น จัดได้ว่าเป็นสัตว์กินเนื้อที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในซีกโลกนี้ อุ้งเท้าของหมีขาวมีขนรองช่วยให้ไม่ลื่นไถลไปกับความลื่นของพื้นน้ำแข็ง หมีขาวถือเป็นสัตว์ที่เดินทางไกลมาก โดยบางครั้งอาจจะใช้วิธีการนั่งบนแผ่นหรือก้อนน้ำแข็งลอยตามน้ำไป หรือไม่ก็ว่ายน้ำหรือดำน้ำไป ซึ่งหมีขาวจัดเป็นหมีที่ว่ายน้ำและดำน้ำเก่งมาก โดยใช้ขาหน้าพุ้ย หรือบางครั้งก็ใช้ทั้ง 4 ขา เคยมีผู้พบหมีขาวว่ายอยู่ในทะเลที่ห่างจากชายฝั่งไกลถึง 200 ไมล์



หมีขาว เป็นหมีที่ถือได้ว่ากินอาหารมากกว่าหมีชนิดอื่น ๆ ซึ่งอาหารของหมีขาวมีมากมาย เช่น แมวน้ำ หรือ วอลรัส ด้วยการย่องเข้าไปเงียบ ๆ หรือหลบซ่อนตัวตามก้อนหินหรือก้อนน้ำแข็ง นอกจากนี้แล้วบางครั้งยังอาจจับนกทะเล ทั้งไข่และลูกนก บางครั้งก็จับปลากิน หรืออาจจะกินซากของวาฬที่ตายเกยตื้น หรือแม้แต่ซากหมีขาวด้วยกันหรือลูกหมีที่ตายได้ด้วย หมีขาวมีประสาทสัมผัสการรับรู้กลิ่นที่ดีมาก โดยสามารถได้กลิ่นลูกแมวน้ำที่ซ่อนตัวอยู่ใต้พื้นน้ำแข็งได้ไกลถึง 2 กิโลเมตร


หมีขาวหรือหมีขั้วโลกจัดเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทางทะเลเพราะว่ามันใช้เวลาส่วนมากในการใช้ชีวิตอยู่ในทะเลมากกว่าบนบก พื้นที่ที่พวกมันอาศัยอยู่เป็นชายฝั่งที่มีน้ำแข็งปกคลุมและบริเวณหมู่เกาะแถบอาร์คติคที่ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นวงแหวนแห่งชีวิตของเขตอาร์กติก (Artic Ring 0f Life) เพราะว่าบริเวณนี้มีความหลากหลายและจำนวนของสิ่งมีชีวิตค่อนข้างสูงมากกว่าพื้นที่น้ำลึกของเขตอาร์คติค หมีขั้วโลกจะอาศัยอยู่บริเวณแผ่นน้ำแข็งที่ติดกับน้ำทะเล เพื่อความสะดวกในการหาอาหารซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นแมวน้ำ โดยหมีขั้วโลกเหล่านี้สามารถจับตำแหน่งของแมวน้ำจากลมหายใจของแมวน้ำ หมีขั้วโลกเป็นสัตว์ที่มีพละกำลังมาก มันสามารถจัดการกับตัววอลรัสตัวเต็มวัยได้ แต่น้อยมากที่จะเห็นเพราะปกติแล้วตัววอลรัสตัวเต็มวัยจะหนักกว่าหมีขั้วโลกถึง 2 เท่า เคยมีคนพบเห็นหมีขั้วโลกล่าววาฬเบลูก้าซึ่งเป็นจัดเป็นโลมาขนาดเล็กชนิดหนึ่ง โดยการข่วยอย่างแรงที่ช่องหายใจ โดยปกติหมีขั้วโลกจะหากินแบบเดี่ยวๆ


หมีขั้วโลกเป็นสัตว์บกที่ไม่เหมือนกับหมีกริสลี่ย์ ถึงแม้ว่ามันจะมีนิสัยดุร้ายแต่มันมักจะเลือกที่จะวิ่งหนีมากกว่าต่อสู้ แทบจะไม่พบข่าวเกี่ยวกับหมีขั้วโลกทำร้ายคน ในขณะที่หมีกริสลี่ย์ญาติสนิทของมันมักจะมีข่าวตลอดว่าทำร้ายมนุษย์ หมีขั้วโลกสามารถมีอายุประมาณ 25ปี มีการบันทึกอายุที่มากที่สุดของหมีขั้วโลกในธรรมชาติคือ 32 ปี ถ้าเกิดเป็นหมีที่เลี้ยงในกรงเลี้ยงเคยมีบันทึกถึง 43 ปีช่วงฤดูสืบพันธุ์จะอยู่ในเดือนเมษายนถึงเดือนพฤษภาคม เพศผู้จะติดตามกลิ่นของเพศเมียที่ส่งออกมาเพื่อบอกว่าพร้อมที่จะผสมพันธุ์แล้ว ทำให้เพศผู้หลายตัวมารวมกันจนเกิดการต่อสู้ สังเกตจากร่องรอยบาดแผลและการหักของฟัน เพศเมียจะให้กำเนิดลูกในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนกุมภาพันธ์ ลูกหมีแรกเกิดตายังจะปิดอยู่ มีขนไม่หนา น้ำหนักน้อยกว่า 0.9 กิโลกรัม โดยเฉลี่ยแล้วจะไม่เกิน 2 ตัว ลูกหมีจะอยู่กับแม่จนอายุ 1.5 ปี พื้นที่ที่หมีขั้วโลกมีการอาศัยจะอยู่บริเวณ Artic Circle ซึ่งครอบคลุมประเทศเดนมาร์ก นอร์เวย์ รัสเซีย สหรัฐอเมริกา และแคนาดา





วิกฤตการณ์ต่างที่ส่งผลกระทบต่อหมีขั้วโลก

     ในธรรมชาติหมีขั้วโลกเป็นผู้ล่าสูงสุดในพื้นที่ที่มันอาศัยอยู่ นอกจากนี้ก็ยังมีสุนัขจิ้งจอกอาร์กติกและนกนางนวลที่เป็นผู้บริโภครองลงมาทำหน้าที่ในการจัดการซากที่หมีขั้วโลกเหล่านี้จัดการไว้ อาหารส่วนใหญ่ที่หมีขั้วโลกเหล่านี้กินจะเป็นแมวน้ำโดยเฉพาะแมวน้ำคอแหวนที่มีมากในบริเวณนี้ จนเกิดเป็นความสัมพันธ์กันระหว่างแมวน้ำคอแหวนกับหมีขาวที่ค่อนข้างใกล้ชิดกันมากคือ เมื่อจำนวนแมวน้ำคอแหวนเพิ่มจำนวนขึ้นจากการกระตุ้นให้หมีขั้วโลกเพิ่มจำนวนขึ้น ในขณะเดียวกันแมวน้ำคอแหวนก็กระตุ้นให้ประชากรของมันประสบความสำเร็จในการสืบพันธุ์มากขึ้น แรงกดดันของวิวัฒนาการจากการล่าของหมีขั้วโลกทำให้เกิดความแตกต่างระหว่างแมวน้ำอาร์กติกและแมวน้ำแอนตาร์กติก


ในช่วงก่อนหน้านี้มนุษย์มีการล่าหมีขั้วโลกด้วยเหตุผลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นความเชื่อของชนพื้นเมืองบางเผ่าที่ล่าหมีเพื่อแสดงความกล้า เอาหนังมาทำเป็นเครื่องนุ่งห่ม เนื้อเอามากิน ไขมันนำมาใช้เป็นอาหารและพลังงานในการให้แสงสว่างและอบอุ่น ร่วมกับไขของแมวน้ำและปลาวาฬ ถุงน้ำดีและหัวใจเอามาตากแห้งแล้วบดให้ละเอียดใช้เป็นยา เขี้ยวเอามาทำเป็นเครื่องประดับ มีเพียงตับเท่านั้นที่ไม่ได้นำมาใช้เนื่องจากมีความเข้มข้นของวิตามินเอที่สูงมากจนมีความเป็นพิษสูง


มนุษย์ที่ล่ามักจะโยนตับทิ้งลงทะเลหรือฝังกลบเพื่อหลีกเลี่ยงสุนัขที่นำไปด้วยขุดคุ้ยเอามากิน ในประเทศรัสเซียหมีขั้วโลกถูกฆ่าเพื่อการค้าตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 ถึงแม้ว่าราคาขนของหมีขั้วโลกหรือหมีขาวนี้มีราคาถูกกว่าขนของสุนัขจิ้งจอกอาร์กติกหรือว่ากวางเรนเดียร์ จนต้องมีมาตรการในแต่ละประเทศที่ออกมาเพื่อปกป้องหมีขั้วโลกเหล่านี้ รวมไปถึง IUCN ที่ได้ออกจัดให้หมีขั้วโลกเป็นสัตว์ที่มีแนวโน้มใกล้สูญพันธุ์

ปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อจำนวนของหมีขั้วโลกก็คือ มลพิษ โดยพบการปนเปื้อนภายในตัวของหมีขั้วโลกเหล่านี้ของสารพิษชนิดต่างๆ เช่น Polychlorinated biphenyl (PCBs) และยาฆ่าแมลงที่เป็นสารประกอบคลอไรด์ เนื่องจากหมีขั้วโลกเป็นผู้ล่าสูงสุดถือเป็นยอดของปริมิดอาหาร (Food Pyramid) ของพื้นที่แถบนี้ สารพิษที่มีการปนเปื้อนในตัวสัตว์บริเวณพื้นที่นี้จะตรวจพบในชั้นไขมัน จากการทดสอบชิ้นเนื้อของหมีพบการเพิ่มขึ้นในช่วงที่ยังไม่มีมาตรการเกี่ยวกับการใช้ยาฆ่าแมลง แต่เมื่อได้ออกมากฎเกี่ยวกับการใช้ฆ่าแมลงชนิดต่างๆก็พบว่าปริมาณในชิ้นเนื้อได้น้อยลง 
นอกจากผลกระทบของสารพิษชนิดต่างๆก็ยังมีเกี่ยวกับคราบน้ำมัน พื้นที่แถบบริเวณอาร์กติก เช่นบริเวณอลาสก้ามีแหล่งน้ำมันดิบที่อยู่ใต้ดินจำนวนมาก การขุดน้ำมันนอกจากจะสร้างรายได้จำนวนมหาศาลแล้วยังสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมนับค่าไม่ได้ถ้ามีการจัดการไม่ได้มาตรฐานและปัญหาที่มักจะเกิดขึ้นบ่อยๆ คือ การรั่วไหลของน้ำมันภายในมหาสมุทร อย่างตัวอย่างที่เกิดล่าสุดก็คือการรั่วไหลของน้ำมันที่อ่าวแม๊กซิโกที่ปล่อยน้ำมันดิบออกมามากกว่า 5 ล้านบาร์เรลเมื่อ 5 เดือนที่ผ่านมา รัฐที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือรัฐ Louisiana ซึ่งส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั้น เช่น ปลาชนิดต่างๆ นกทะเล วาฬ โลมา เต่าทะเล แมวน้ำ และอื่นๆ




คราบน้ำมันในครั้งนี้ได้ใช้เวลาประมาณ 6 เดือนถึงจะจัดการได้ ถึงแม้ว่ามันจะไม่ใช่พื้นที่ที่อยู่ในบริเวณพื้นที่ที่หมีขั้วโลกโดยตรงแต่สารพิษก็สะสมอยู่ในปลาซึ่งอาหารของแมวน้ำแล้วแมวน้ำก็เป็นอาหารของหมีขั้วโลก ถ้าเกิดน้ำมันรั่วไหลบริเวณอาร์กติกซึ่งเกิดขึ้นบ่อย น้ำมันจะลอยอยู่บริเวณผิวน้ำ น้ำมันส่วนนี้ก็จะไปเกาะตามผิวหนัง ขนของหมี จากนั้นก็จะเข้าสู่ร่างกายเพราะหมีจะทำความสะอาดโดยการเลียแล้วคราบน้ำมันก็จะเอาสู่ร่างกาย และการที่มีคราบน้ำมันอย่างนี้จะทำให้หมีเสี่ยงต่อการตายจากอาการ Hypothermia เป็นอาการที่อุณหภูมิร่างกายลดลงอย่างรวดเร็ว

อีกปรากฎการณ์ที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อหมีขั้วโลกเหล่านี้ คือ ภาวะโลกร้อน (Global warming) ซึ่งส่งผลกระทบไปทั่วโลกตอนนี้ ในพื้นที่แถบอาร์กติกนี้ก็ได้รับผลกระทบที่ค่อนข่างหนักเนื่องจากอุณหภูมิสูงขึ้นแผ่นน้ำแข็งเริ่มมีการละลาย ลดขนาดลงไป ซึ่งแผ่นน้ำแข็งเหล่านี้เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์โดยเฉพาะหมีขั้วโลกเหล่านี้ เมื่อสภาวะโลกร้อนได้ขยายตัว ทำให้หมีเหล่านี้ขาดแคลนอาหารเนื่องจากการสูญเสียถิ่นที่อยู่อาศัย





โดยปกติแล้วหมีขั้วโลกจะล่าแมวน้ำที่บริเวณแผ่นน้ำแข็ง แต่เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้นส่งผลให้เกิดการละลายของแผ่นน้ำแข็งซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในแต่ละปี เมื่อแผ่นน้ำแข็งละลายอาหารก็หายากมากขึ้น การสร้างไขมันสะสมของหมีซึ่งจะทำการเก็บสะสมในช่วงฤดูร้อนและฤดูใบไม้ร่วงเพื่อใช้ในการจำศีลในช่วงฤดูหนาวก็จะน้อยไปด้วยแถมยังสูญเสียพลังงานในการว่ายน้ำมากขึ้นจนอาจจะทำให้เกิดการจมน้ำตายของหมีขั้วโลกได้ แผ่นน้ำแข็งที่บางมีโอกาสแตกหักได้ง่ายทำให้หมีเหล่านี้ล่าแมวน้ำยากขึ้น ส่งผลให้เพศเมียได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ ลูกที่คลอดออกมามีอัตราการตายสูง ในตอนนี้ผลกระทบของภาวะโลกร้อนเริ่มส่งผลแล้วในบริเวณทางตอนใต้ของพื้นที่อาร์กติก เช่น  western Hudson Bay ในช่วงปี ค.ศ. 1987 – 2004 มีประชากรลดลงประมาณ 22% ของประชากรทั้งหมดในพื้นที่ของรัฐอลาสก้า ผลกระทบของการลดลงของแผ่นน้ำแข็งทำให้อัตราการตายของลูกหมีเพิ่มขึ้นและนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพื้นที่ในการสร้างโพรงเพื่อเลี้ยงลูกอีกด้วย


ในปี พ.ศ. 2553 นักนิเวศวิทยา Peter Molnar และทีมนักวิจัยได้ร่วมกันศึกษาความต้องการพลังงานของหมีขาว ซึ่งได้ผลสรุปว่าหากหมีขาวอยู่อาศัยโดยไม่ได้กินอาหารภายใน 6 เดือนจะทำให้ประชากรเพศผู้ตายละราว 28 ถึง 48 เปอร์เซ็นต์ และในอัตราการตายดังกล่าว หมีขาวย่อมสูญพันธุ์




cr: https://s-media-cache-ak0.pinimg.com/564x/ab/08/59/ab085942ac55856ceb6de5fc501f5d17.jpg


สารคดีสัตว์โลก ตอน หมีขาวขั้วโลก

 cr: https://youtu.be/lTCrFddr90E

 
การเคลื่อนที่ของหมีขาว

 cr: https://youtu.be/W4bOSPdzhqc

สารคดีสํารวจโลก ตอน Knut หมีขาวผู้น่ารัก


 
 cr: https://youtu.be/eV43eB6ebk4


สารคดี ดินแดนสุดท้ายของหมี หมีขั้วโลกเหนือ

 cr: https://youtu.be/3OgstTDLSj4
 

 สารคดี หมีขั้วโลก Polar Bear l คนหลงรักป่า Wild Obsession

 cr: https://youtu.be/iXRZFuRxNPY

  
ภาวะโลกร้อนกระทบ'หมีขั้วโลก'

 cr: https://youtu.be/vZzbjcth0u8